กมลวรรณ ตั้งเจริญบำรุงสุขอรุณชัย ตั้งเจริญบำรุงสุขชูชาติ ธรรมเจริญทยุ บุตรประดิษฐ์2025-09-032025-09-03https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11729กลุ่มอาการออทิสติกเป็นความผิดปกติทางพัฒนาการที่เป็นผลจากความผิดปกติของสมอง ซึ่งในทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดขึ้นในขณะเป็นทารกในครรภ์ของมารดา เนื่องจากช่วงที่เกิดการพัฒนาเป็นระบบประสาทและสมองในทารกเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ลายนิ้วมือเกิดขึ้น จึงอาจเป็นไปได้ว่าหากสมองผิดปกติแล้ว ลายนิ้วมืออาจผิดปกติด้วย ในโครงการวิจัยนี้ได้ประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ลายนิ้วมือในการตรวจเพื่อระบุและจำแนกเด็กที่เป็นออทิสติกกับเด็กปกติ โดยใช้ตัวอย่างเด็กออทิสติกจำนวน 19 คน และเด็กปกติจำนวน 28 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 3 ถึง 7 ขวบ และได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของเด็กแล้ว ตรวจวัดลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วของเด็กทั้งหมดโดยใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือชนิดอินฟราเรดที่มีความละเอียดจุดภาพเป็น 512 จุดต่อนิ้วและเก็บข้อมูลแบบสเกลสีเทาชนิด 8 บิต ทำการวิเคราะห์ลายนิ้วมือโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ส่วนประกอบมุขสำคัญ เพื่อระบุตำแหน่งของกลุ่มตัวอย่างของเด็กออทิสติกและเด็กปกติในปริภูมิของ 3 ส่วนประกอบมุขสำคัญแรกพบว่า ลายนิ้วมือของนิ้วก้อยซ้ายของกลุ่มเด็กออทิสติกแตกต่างอย่างชัดเจนจากกลุ่มเด็กปกติ แล้วทำการจำแนกความแตกต่างโดยใช้วิธีแนวเทียบกลุ่มของแบบจำลองอิสระเปลี่ยนได้พบว่า สามารถจำแนกความแตกต่างของลายนิ้วมือของนิ้วก้อยซ้ายได้อย่างถูกต้องทั้งหมด จากผลการวิจัยดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้ที่จะใช้การวิเคราะห์ลายนิ้วมือนี้ในการช่วยตรวจคัดกรองเด็กออทิสติกในเบื้องต้นได้ต่อไปออทิสติก -- เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองเด็กออทิสติกด้วยการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ