วันปิติ ธรรมศรี | เกียรติดำรง สังคมศิลป์ | วุฒิพงษ์ ธรรมศรี2025-08-192025-09-032025-08-192025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1217https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12227การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้คือ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างถนนสายใหม่ที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชนและการมีส่วนร่วมรับผิดชอบพื้นที่สีเขียวของชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพการอยู่อาศัยคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมชุมชนที่ยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการเชื่อมโยงวิธีการทางวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน น้ำ และป่าไม้ที่ถูกต้องและเหมาะสมสู่ชุมชน โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ ตัวแทนประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณถนนสายใหม่ในพื้นที่ 5 ตำบลหนองปลาไหล ตำบลหนองยาว ตำบลปากข้าวสาร ตำบลกุดนกเปล้า อำเภอเมืองและตำบลหนองนาก อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จำนวน 381 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามสถิติที่ใช้ในงานวิจัย คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS version 17.0 ผลการวิจัยมีดังนี้ จากการศึกษาผลกระทบและความคิดเห็นของประชาชนต่อการสร้างถนนสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 326 สายเลี่ยงเมืองสระบุรีด้านตะวันออก) ของตัวแทนประชาชน กลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ 5 ตำบลที่ได้รับผลกระทบบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ถนนตัดผํานในพื้นที่ 5 ตำบลของจังหวัดสระบุรี พบว่า ลักษณะการใช้ที่ดินในชุมชนโดยรวมสูงสุดเป็นพื้นที่ทำเกษตรกรรม ร้อยละ 43.57 รองลงมาเป็นที่พักอาศัย ร้อยละ 31.23 และการค้า/พาณิชย์ ร้อยละ 25.20 ผู้ตอบแบบสอบถามโดยรวมส่วนใหญ่ได้ย้ายมาอาศัยอยูํในที่ดินปัจจุบันภายหลังมีการก่อสร้างถนนมากที่สุด ร้อยละ 46.20 และเมื่อเปรียบเทียบกับการที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในที่ดินปัจจุบันก่อนมีการก่อสร้างถนน มีเพียงร้อยละ 36.74 และที่มีการอาศัยอยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ร้อยละ 17.06 ซึ่งก่อนที่จะมีการก่อสร้างถนนส่วนใหญ่ที่ดินถูกทิ้งว่างเปล่าร้อยละ 41.74 รองลงมาที่ดินเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ร้อยละ 28.87 และเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ร้อยละ 24.15 ภายหลังการเปิดให้ใช้ถนนที่ดินส่วนใหญ่ถูกใช้ประโยชน์เพื่อที่อยู่อาศัย ร้อยละ 45.14 เพื่อการค้า ร้อยละ 30.97 และเกษตรกรรมร้อยละ 23.89 โดยพบว่า การใช้ที่ดินปัจจุบันหลังจากการก่อสร้างถนนแตกต่างจากก่อนการก่อสร้างถนน ซึ้งการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินเกิดขึ้นการมากที่สุดในช่วงปี พ.ศ. 2554 ร้อยละ 30.97 รองลงมา พ.ศ. 2553 ร้อยละ 26.25 สาเหตุที่เลือกมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้มากที่สุดโดยรวม คือ น้ำไม่ท่วม ร้อยละ 29.66 รองลงมาคือ การคมนาคมสะดวก ร้อยละ 26.50 และอยู่ใกล้ถนนทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ร้อยละ 25.20 ส่วนบริเวณที่พักอาศัยก่อนมีการก่อสร้างถนนโดยรวมมีลักษณะเป็นพื้นที่สมบูรณ์เหมาะต่อการทำเกษตรกรรม ร้อยละ 37.53 เป็นพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง ร้อยละ 32.81 และเป็นพื้นที่ป่าโปร่ง ร้อยละ 29.66 ภายหลัง การก่อสร้างถนนโดยรวมพื้นที่สมบูรณ์เหมาะต่อการทำเกษตรกรรมลดลงเหลือ ร้อยละ 36.48 พื้นที่ที่มีความแห้งแล้งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 34.12 และพื้นที่ป่าโปร่งลดลงเหลือ ร้อยละ 29.40 และในส่วนของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของคนในชุมชนโดยรวมสูงสุด คือ การปลูกฝังสมาชิกในครอบครัวให้มีวินัยในการรู้จักคุณค่าของสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 29.40 รองลงมาคือ การปลูกต้นไม้เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 29.14ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน -- วิจัย | การเปลี่ยนแปลทางสังคม | ทรัพยากรธรรมชาติ -- การใช้ประโยชน์ -- การมีส่วนร่วมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนแบบมีส่วนร่วมจากผลกระทบของการพัฒนาเมืองโดยเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างถนนสายใหม่